ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
การสนับสนุน
ลงชื่อเข้าใช้
ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Microsoft
ลงชื่อเข้าใช้หรือสร้างบัญชี
สวัสดี
เลือกบัญชีอื่น
คุณมีหลายบัญชี
เลือกบัญชีที่คุณต้องการลงชื่อเข้าใช้

หมายเหตุ: บทความนี้จะนำไปใช้กับ Office 365 ดำเนินการโดย 21Vianet ในประเทศจีนเท่านั้น

ด้วยการปรับใช้ Skype for Business แบบไฮบริด คุณสามารถคงผู้ใช้ Skype for Business บางส่วนไว้ภายในองค์กร และอีกส่วนไว้ใน Skype for Business Online โดยทั้งสองส่วนจะแชร์โดเมนเดียวกัน ซึ่งจะทำให้การให้บริการ Skype for Business แก่ผู้ใช้ขององค์กรของคุณเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าผู้ใช้จะอยู่ตามพื้นที่ที่แตกต่างกันทางภูมิศาสตร์ หรือผู้ใช้ที่เชื่อมต่อจากระยะไกล คุณยังสามารถใช้ประโยชน์จากการกำหนดค่าไฮบริดของ Skype for Business เป็นเส้นทางการโยกย้ายไปยัง Office 365 ได้ด้วย ส่วนนี้จะอธิบายเกี่ยวกับการกำหนดค่าแบบไฮบริดสำหรับ Skype for Business Server 2015

การวางแผนสำหรับการนำไปใช้แบบไฮบริด

ให้พิจารณาถึงความต้องการของผู้ใช้และโครงสร้างพื้นฐานทางเครือข่ายของคุณต่อไปนี้ในขณะที่วางแผนสำหรับการนำไปใช้แบบไฮบริด

ความต้องการทางโครงสร้างพื้นฐาน

คุณจะต้องมีสิ่งต่อไปนี้ในสภาพแวดล้อมของคุณเพื่อใช้และกำหนดค่าการปรับใช้ Skype for Business Server 2015 แบบไฮบริด

  • เซิร์ฟเวอร์ Active Directory Federation Services (AD FS) ที่ใช้งาน Windows 2008 R2 SP1 หรือ Service Pack ล่าสุด สำหรับความต้องการทางระบบเพิ่มเติมสำหรับ AD FS ให้ดูที่ Active Directory Federation Services 2.0

  • การปรับใช้ภายในองค์กรของ Skype for Business Server 2015 หรือ Lync Server 2010 ที่มีการอัปเดตสะสมสำหรับ Lync Server 2010: มีนาคม 2556

  • เครื่องมือการดูแลระบบ Skype for Business Server 2015

  • เซิร์ฟเวอร์การซิงโครไนซ์ไดเรกทอรี สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการซิงโครไนซ์ไดเรกทอรี ให้ดูที่ เครื่องมือการซิงโครไนซ์ไดเรกทอรี

การสนับสนุนไคลเอ็นต์ Skype for Business

มีความแตกต่างบางประการในฟีเจอร์ที่สนับสนุนในไคลเอ็นต์ Skype for Business รวมถึงฟีเจอร์ที่มีให้ใช้งานในสภาพแวดล้อมภายในองค์กรและบนระบบออนไลน์ ก่อนที่คุณจะตัดสินใจว่าคุณต้องการให้ผู้ใช้ในองค์กรของคุณอยู่ที่ใด คุณสามารถดูการสนับสนุนไคลเอ็นต์สำหรับการกำหนดค่าต่างๆ ของ Skype for Business ได้ ไคลเอ็นต์ต่อไปนี้ได้รับการสนับสนุนกับ Skype for Business Online ในการปรับใช้ Skype for Business แบบไฮบริด

  • Lync 2010

  • Skype for Business

  • แอป Skype for Business Windows Store

  • Skype for Business Web App

  • Lync Mobile

  • Lync for Mac 2011

  • Lync Basic 2013

ความต้องการทางโทโพโลยี

เมื่อต้องการกำหนดค่าการปรับใช้ Skype for Business Server 2015 แบบไฮบริดกับ Skype for Business Online คุณต้องมีหนึ่งในโทโพโลยีที่ได้รับการสนับสนุนต่อไปนี้

  • Microsoft Office Communications Server 2007 R2 ที่มี Skype for Business Server 2015 ภายในองค์กร, การติดต่อกับภายนอกของ Edge Server สำหรับ Skype for Business Server 2015 และเซิร์ฟเวอร์ Hop ถัดจากการติดต่อกับ Edge Server จะต้องใช้งาน Skype for Business Server 2015 และจะต้องมีการปรับใช้ที่เก็บของการจัดการส่วนกลาง นอกจากนี้จะต้องมีการปรับใช้ Edge Server และพูลภายในองค์กรด้วย

  • Microsoft Lync Server 2010 ที่มีการอัปเดตสะสมสำหรับ Lync Server 2010: ปรับใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2556 และต้องติดตั้งเครื่องมือการดูแลระบบ Skype for Business Server 2015 ภายในองค์กร การติดต่อกับภายนอกของ Edge Server และเซิร์ฟเวอร์ Hop ถัดจากการติดต่อกับ Edge Server จะต้องใช้งาน Microsoft Lync Server 2010 ที่มีการอัปเดตสะสมล่าสุด

    สิ่งสำคัญ: เครื่องมือการดูแลระบบ Skype for Business Server 2015 ควรติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ที่แยกต่างหากซึ่งเชื่อมต่อกับการปรับใช้ Lync Server 2010 ที่มีอยู่ การใช้ Move-CsUser cmdlet เพื่อย้ายผู้ใช้จากการปรับใช้ภายในองค์กรไปยัง Skype for Business Online จะต้องใช้งานจากเครื่องมือการดูแลระบบ Skype for Business Server 2015 ที่เชื่อมต่อกับการปรับใช้แบบภายในองค์กร

  • การปรับใช้ Skype for Business Server 2015 กับเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดที่ใช้งาน Skype for Business Server 2015

ความต้องการของรายการอนุญาต/บล็อกการติดต่อกับภายนอก

รายการโดเมนที่อนุญาตจะมีโดเมนที่มีชื่อโดเมนแบบเต็ม (FQDN) ของ Edge คู่ค้าถูกกำหนดค่าอยู่ ในบางครั้งจะเรียกว่า เซิร์ฟเวอร์คู่ค้าที่อนุญาต หรือคู่ค้าที่ติดต่อกับภายนอกโดยตรง คุณควรทำความคุ้นเคยกับความแตกต่างระหว่าง การติดต่อกับภายนอกแบบเปิด และ การติดต่อกับภายนอกแบบปิด ซึ่งเรียกว่าการค้นพบคู่ค้า และรายการโดเมนคู่ค้าที่อนุญาตตามลำดับในการนำไปใช้ภายในองค์กร ต้ิองมีความต้องการต่อไปนี้เพื่อให้การกำหนดค่าการปรับใช้แบบไฮบริดสำเร็จ

  • ต้องกำหนดค่าการจับคู่โดเมนแบบเดียวกันสำหรับการปรับใช้ภายในองค์กรและผู้เช่า Office 365 ของคุณ ถ้าเปิดใช้งานการค้นพบคู่ค้าในการปรับใช้ภายในองค์กร คุณต้องกำหนดค่าการติดต่อกับภายนอกแบบเปิดสำหรับผู้เช่าแบบออนไลน์ของคุณ ถ้าปิดใช้งานการค้นพบคู่ค้า คุณต้องกำหนดค่าการติดต่อกับภายนอกแบบปิดสำหรับผู้เช่าแบบออนไลน์ของคุณ

  • รายการโดเมนที่บล็อกในการปรับใช้แบบภายในองค์กรต้องตรงกันทุกประการกับรายการโดเมนที่บล็อกสำหรับผู้เช่าแบบออนไลน์ของคุณ

  • รายการโดเมนที่อนุญาตในการปรับใช้แบบภายในองค์กรต้องตรงกันทุกประการกับรายการโดเมนที่อนุญาตสำหรับผู้เช่าแบบออนไลน์ของคุณ

  • ต้ิองเปิดใช้งานการติดต่อกับภายนอกสำหรับการสื่อสารกับภายนอกของผู้เช่าแบบออนไลน์ ซึ่งกำหนดค่าโดยใช้แผงควบคุม Skype for Business Online

การตั้งค่า DNS

เมื่อสร้างระเบียน DNS SRV สำหรับการนำไปใช้แบบไฮบริด ระเบียน _sipfederationtls._tcp.<โดเมน> และ _sip._tls.<โดเมน> ควรชี้ไปที่พร็อกซีการเข้าถึงภายในองค์กร

ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับไฟร์วอลล์

คอมพิวเตอร์บนเครือข่ายของคุณต้องสามารถค้นหา DNS อินเทอร์เน็ตมาตรฐานได้ ถ้าคอมพิวเตอร์เหล่านี้สามารถเข้าถึงไซต์อินเทอร์เน็ตมาตรฐานได้ แสดงว่าเครือข่ายของคุณตรงตามความต้องการนี้

คุณต้องกำหนดค่าอุปกรณ์ไฟร์วอลล์ของเครือข่ายให้ยอมรับการเชื่อมต่อโดยยึดตามชื่อโดเมนที่มีอักขระตัวแทน (ตัวอย่างเช่น การรับส่งข้อมูลทั้งหมดจาก *.partner.outlook.cn) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ตั้งของศูนย์ข้อมูลของคุณ ถ้าไฟร์วอลล์ขององค์กรของคุณไม่สนับสนุนการกำหนดค่าสำหรับชื่อที่มีอักขระตัวแทน คุณจะต้องระบุช่วงที่อยู่ IP ที่คุณต้องการอนุญาตและพอร์ตที่เฉพาะเจาะจงด้วยตนเอง

ให้อ้างอิงถึงหัวข้อวิธีใช้ URL และช่วงที่อยู่ IP สำหรับ Office 365 ที่ดำเนินการโดย 21Vianet

ความต้องการทางพอร์ตและโพรโทคอล

นอกเหนือจากความต้องการทางพอร์ตสำหรับการติดต่อสื่อสารภายใน Skype for Business Server 2015 แล้ว คุณต้องกำหนดค่าพอร์ตต่อไปนี้สำหรับเครือข่ายภายในองค์กรของคุณด้วย

โพรโทคอล / พอร์ต

แอปพลิเคชัน

TCP 443

เปิดขาเข้า

  • Active Directory Federation Services (บทบาทเซิร์ฟเวอร์ที่ติดต่อกับภายนอก)

    สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่ การทำความเข้าใจบริการบทบาทของ AD FS

  • Active Directory Federation Services (บทบาทเซิร์ฟเวอร์พร็อกซี)

  • พอร์ทัล Microsoft Online Services

  • พอร์ทัลของบริษัทของฉัน

  • Outlook Web App

  • ไคลเอ็นต์ Lync (การติดต่อสื่อสารกับ Skype for Business Online จาก Skype for Business Server ภายในองค์กร)

TCP 80 และ 443

เปิดขาเข้า

  • เครื่องมือการซิงโครไนซ์ไดเรกทอรี Microsoft Online Services

TCP 5061

เปิด ขาเข้า/ขาออก บนเซิร์ฟเวอร์ขอบ

PSOM/TLS 443

เปิด ขาเข้า/ขาออก สำหรับเซสชันการแชร์ข้อมูล

STUN/TCP 443

เปิด ขาเข้า/ขาออก สำหรับเซสชันการแชร์เสียง วิดีโอ แอปพลิเคชัน

STUN/UDP 3478

เปิด ขาเข้า/ขาออก สำหรับเซสชันเสียงและวิดีโอ

RTP/TCP 50000-59999

เปิดขาออกสำหรับเซสชันเสียงและวิดีโอ

บัญชีผู้ใช้และข้อมูลของผู้ใช้

ในการปรับใช้ Skype for Business Server 2015 แบบไฮบริด ผู้ใช้ที่คุณต้องการให้อยู่ใน Skype for Business Online จะต้องถูกสร้างในการปรับใช้ภายในองค์กรก่อน เพื่อให้บัญชีผู้ใช้ถูกสร้างในบริการของโดเมน Active Directory จากนั้นคุณจึึสามารถย้ายผู้ใช้ไปยัง Skype for Business Online ได้ ซึ่งจะเป็นการย้ายรายการที่ติดต่อของผู้ใช้้ด้วย

เมื่อคุณซิงโครไนซ์บัญชีผู้ใช้ระหว่างการปรับใช้ Skype for Business ภายในองค์กรและ Skype for Business Online กับ AD FS และ Dirsync คณต้องซิงโครไนซ์บัญชีผู้ใช้ AD สำหรับผู้ใช้ Skype for Business ทั้งหมดภายในองค์กรของคุณในระหว่างการปรับใช้ Skype for Business ภายในองค์กรและการปรับใช้ Lync แบบออนไลน์ ถึงแม้ว่าผู้ใช้จะไม่ได้ย้ายไปยัง Skype for Business Online ก็ตาม ถ้าคุณไม่ซิงโครไนซ์ผู้ใช้ทั้งหมด การสื่อสารระหว่างผู้ใช้ภายในองค์กรและผู้ใช้ออนไลน์ภายในองค์กรของคุณอาจไม่ทำงานอย่างที่คาดไว้

หมายเหตุ: ถ้าสร้างผู้ใช้โดยใช้พอร์ทัลออนไลน์ของ Office 365 บัญชีผู้ใช้จะไม่ซิงโครไนซ์กับ Active Directory ภายในองค์กร และผู้ใช้จะไม่อยู่ใน Active Directory ภายในองค์กร ถ้าคุณได้สร้างผู้ใช้ใน Skype for Business Online แล้ว และต้องการกำหนดค่าแบบไฮบริดให้กับ Skype for Business Server ภายในองค์กร ให้ดูที่ การย้ายผู้ใช้จาก Skype for Business Online ไปยัง Skype for Business ภายในองค์กรใน Skype for Business Server 2015

คุณควรพิจารณาปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ต่อไปนี้เมื่อวางแผนสำหรับการปรับใช้แบบไฮบริด

  • ที่ติดต่อขงอผู้ใช้ - ขีดจำกัดสำหรับที่ติดต่อของผู้ใช้ Skype for Business Online คือ 250 รายการ ที่ติดต่อที่นอกเหนือจากขีดจำกัดนี้จะถูกเอาออกจากรายการที่ติดต่อของผู้ใช้เมื่อย้ายบัญชีผู้ใช้ไปยัง Skype for Business OnlineLync Online

  • การส่งข้อความโต้ตอบแบบทันทีและการแสดงตัว - รายการที่ติดต่อของผู้ใช้ กลุ่ม และรายการควบคุมการเข้าถึง (ACL) จะถูกโยกย้ายไปกับบัญชีผู้ใช้

  • ข้อมูลการประชุม เนื้อหาการประชุม และการประชุมที่จัดกำหนดการ - เนื้อหาเหล่านี้ไม่โยกย้ายไปกับบัญชีผู้ใช้ ผู้ใช้ต้องจัดกำหนดการประชุมใหม่ หลังจากที่บัญชีผู้ใช้ของตนถูกย้ายไปยัง Skype for Business Online

นโยบายและฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้

  • ในสภาพแวดล้อม Skype for Business Server 2015 แบบไฮบริด คุณจะสามารถเปิดใช้งานผู้ใช้สำหรับการส่งข้อความโต้ตอบแบบทันที เสียง และการประชุมได้ภายในองค์กรหรือออนไลน์ แต่เปิดใช้งานทั้งสองอย่างพร้อมกันไม่ได้

  • ไคลเอ็นต์ Lync- ผู้ใช้บางรายอาจต้องใช้ไคลเอ็นต์เวอร์ชันใหม่เมื่อย้ายไปยัง Skype for Business Online

  • นโยบายและการกำหนดค่าภายในองค์กร (ไม่ใช่ผู้ใช้) - นโยบายออนไลน์และภายในองค์กรต้องการการกำหนดค่าที่แยกต่างหาก คุณไม่สามารถตั้งค่านโยบายส่วนกลางที่จะนำไปใช้กับทั้งสองรายการนั้นได้

การกำหนดค่าการปรับใช้แบบไฮบริดสำหรับ Skype for Business Server 2015

ส่วนนี้จะอธิบายขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับการกำหนดค่าการปรับใช้ Skype for Business Server 2015 แบบไฮบริด ถ้าคุณเปิดใช้งาน Skype for Business ใน Skype for Business Online ให้กับผู้ใช้ แต่ไม่ได้เปิดใช้งานในการปรับใช้ภายในองค์กร ให้ดูที่ การย้ายผู้ใช้จาก Skype for Business Online ไปยัง Skype for Business ภายในองค์กรใน Skype for Business Server 2015

ข้อมูลประจำตัวของผู้ดูแลระบบ

เมื่อคุณถูกขอให้ใส่ข้อมูลประจำตัวของผู้ดูแลระบบ ให้ใช้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านสำหรับบัญชีผู้ใช้ของผู้ดูแลระบบสำหรับผู้เช่า Office 365 ของคุณ คุณจะต้องใช้ข้อมูลประจำตัวเหล่านี้เมื่อคุณกำหนดค่า Active Directory Federation Services (AD FS) 2.0, การซิงค์ไดเรกทอรี, การเข้าสู่ระบบโดยลงชื่อเข้าใช้ครั้งเดียว, การติดต่อกับภายนอก และการย้ายผู้ใช้ไป Lync Online

การเชื่อมต่อกับ Skype for Business Online PowerShell

ในตอนนี้ ผู้ดูแลระบบมีความสามารถในการใช้ Windows PowerShell เพื่อจัดการ Skype for Business Online และบัญชีผู้ใช้ Skype for Business Online ของพวกเขาได้ เมื่อต้องการทำเช่นนี้ คุณต้องดาวน์โหลดและติดตั้ง Lync Online Connector Module จาก ศูนย์ดาวน์โหลด Microsoft ก่อน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดาวน์โหลด การติดตั้ง และการใช้ Skype for Business Online Connector Module และสำหรับข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับการใช้โมดูล ให้ดูที่ การใช้ Windows PowerShell เพื่อจัดการ Lync Online.

ขั้นตอนในการจัดเตรียมและกำหนดค่า Skype for Business Server 2015 ภายในองค์กรแบบไฮบริดกับ Skype for Business Online

ตารางต่อไปนี้แสดงรายการขั้นตอนที่จำเป็นในการจัดเตรียมสภาพแวดล้อมของคุณสำหรับการปรับใช้แบบไฮบริดกับ Microsoft Skype for Business Online และ Microsoft Office 365

ดำเนินการเสร็จสมบูรณ์แล้วใช่หรือไม่

ขั้นตอน

คำอธิบาย

สร้างบัญชีผู้ใช้ของผู้เช่าสำหรับ Office 365 และเปิดใช้งาน Skype for Business Online

ตั้งค่า Lync Online

เพิ่มโดเมนของคุณและตรวจสอบความเป็นเจ้าของ

ในบางครั้ง โดเมนของคุณยังถูกเรียกว่า โดเมนแบบสั้น (Vanity Domain) คุณต้องเพิ่มโดเมนของคุณไปยังผู้เช่า Office 365 ของคุณ และทำตามขั้นตอนเพื่อตรวจสอบโดเมนกับ Office 365 ซึ่งจะเป็นการยืนยันว่าคุณเป็นเจ้าของโดเมนนั้น เมื่อต้องการเพิ่มโดเมนของคุณไปยังผู้เช่า Office 365 ให้ทำตามขั้นตอนที่อธิบายไว้ที่ ตั้งค่าและจัดการโดเมนใน Office 365 Enterprise และ Office 365 Midsize Business ทำตามขั้นตอนทั้งหมดในแต่ละส่วนในหัวข้อให้เสร็จสิ้น รวมถึง "แก้ไขระเบียน DNS สำหรับบริการ Office 365 ของคุณ" ด้วย

เตรียมพร้อมสำหรับการซิงโครไนซ์ Active Directory

การซิงโครไนซ์ Active Directory จะทำให้ Active Directory ภายในองค์กรของคุณซิงค์กับ Office 365 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้คุณสามารถสร้างเวอร์ชันที่ซิงโครไนซ์ของบัญชีผู้ใช้แต่ละรายและกลุ่ม และยังเปิดใช้งานการซิงโครไนซ์สมุดรายชื่อส่วนกลาง (GAL) จาก สภาพแวดล้อม Microsoft Exchange Server ภายในกับ Microsoft Exchange Online อีกด้วย

คุณต้องซิงโครไนซ์บัญชีผู้ใช้ AD สำหรับผู้ใช้ Skype for Business ทั้งหมดในองค์กรของคุณในระหว่างการปรับใช้ Skype for Business ภายในองค์กรและแบบออนไลน์ ถึงแม้ว่าผู้ใช้จะไม่ได้ย้ายไปยัง Skype for Business Online ก็ตาม ถ้าคุณไม่ซิงโครไนซ์ผู้ใช้ทั้งหมด การสื่อสารระหว่างผู้ใช้ภายในองค์กรและผู้ใช้ออนไลน์ในองค์กรของคุณอาจทำงานไม่ได้อย่างที่คาดไว้

เมื่อต้องการจัดเตรียมสภาพแวดล้อมของคุณสำหรับการซิงโครไนซ์ Active Directory ให้ดูที่ บริการรวมไดเรกทอรี

สร้างใบรับรองสำหรับ Active Directory Federation Services (AD FS)

หลังจากที่คุณสร้างใบรับรองที่ใช้สำหรับระบุการติดต่อกับภายนอกกับ Office 365 แล้ว คุณต้องติดตั้งและกำหนดใบรับรองนั้น

ย้ายผู้ใช้นำร่องไปยัง Skype for Business Online

หลังจากที่คุณทำขั้นตอนในการจัดเตรียมและกำหนดค่าสภาพแวดล้อมของคุณสำหรับ Skype for Business Online เสร็จสิ้นแล้ว คุณสามารถเริ่มย้ายผู้ใช้นำร่องไปยัง Skype for Business Onlineได้ ให้ดูที่ ย้ายผู้ใช้ไปยัง Skype for Business Online ใน Skype for Business Server 2015

การดูแลผู้ใช้ในการปรับใช้แบบไฮบริด

สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการดูแลผู้ใช้ในการปรับใช้แบบไฮบริด ให้ดูที่ การดูแลผู้ใช้ในการปรับใช้ Skype for Business Server 2015 แบบไฮบริด

กำหนดค่าการติดต่อกับภายนอกของ Skype for Business Server 2015 กับ Skype for Business Online

การติดต่อกับภายนอกอนุญาตให้ผู้ใช้ในการปรับใช้แบบภายในองค์กรสื่อสารกับผู้ใช้ Office 365 ในองค์กรของคุณได้ เมื่อต้องการกำหนดค่าการติดต่อกับภายนอก ให้เรียกใช้ cmdlets ต่อไปนี้

New-CSHostingProvider -Identity LyncOnline -ProxyFqdn "sipfed.online.partner.lync.cn" -Enabled $true -EnabledSharedAddressSpace $true -HostsOCSUsers $true -VerificationLevel UseSourceVerification -IsLocal $false -AutodiscoverUrl https://webdir.online.partner.lync.cn/Autodiscover/AutodiscoverService.svc/root

กำหนดค่าผู้เช่า Skype for Business Online ของคุณสำหรับพื้นที่ที่อยู่ SIP ที่แชร์

ที่อยู่ Session Initiation Protocol (SIP) คือตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันสำหรับผู้ใช้แต่ละรายบนเครือข่าย ซึ่งเหมือนกับหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมล ก่อนที่คุณจะลองย้ายผู้ใช้ Skype for Business ภายในองค์กรไปยัง Skype for Business Online คุณจำเป็นต้องกำหนดค่าผู้เช่า Office 365 ให้แชร์พื้นที่ที่อยู่ Session Initiation Protocol (SIP) ที่แชร์กับการปรับใช้ภายในองค์กรของคุณ ถ้าไม่ได้กำหนดค่า คุณอาจเห็นข้อความแสดงข้อผิดพลาดต่อไปนี้

Move-CsUser : HostedMigration fault: ข้อผิดพลาด=(510), คำอธิบาย=(ไม่ได้เปิดใช้งานผู้เช่าของผู้ใช้นี้สำหรับพื้นที่ที่อยู่ SIP ที่แชร์)

เมื่อต้องการกำหนดค่าพื้นที่ที่อยู่ SIP ที่แชร์ ให้สร้างเซสชัน PowerShell ระยะไกลกับ Skype for Business Online แล้วเรียกใช้ cmdlet ต่อไปนี้

Set-CsTenantFederationConfiguration -SharedSipAddressSpace $true

เมื่อต้องการสร้างเซสชัน PowerShell ระยะไกลกับ Skype for Business Online ก่อนอื่น คุณต้องติดตั้งโมดูล Skype for Business Online สำหรับ Windows PowerShell ซึ่งคุณสามารุรับได้ที่นี่: โมดูล Windows PowerShell สำหรับ Lync Online

หลังจากที่คุณติดตั้งโมดูลแล้ว คุณสามารถสร้างเซสชันระยะไกลได้ด้วย cmdlets ต่อไปนี้

Import-Module LyncOnlineConnector
$cred = Get-Credential
$CSSession = New-CsOnlineSession -Credential $cred
Import-PSSession $CSSession -AllowClobber

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการสร้างเซสชัน PowerShell ระยะไกลกับ Skype for Business Online ให้ดูที่ การเชื่อมต่อกับ Lync Online โดยใช้ Windows PowerShell

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้โมดูล PowerShell ของ Skype for Business Online ให้ดูที่ การใช้ Windows PowerShell เพื่อจัดการ Lync Online

ย้ายผู้ใช้ไปยัง Skype for Business Online ใน Skype for Business Server 2015

ก่อนที่คุณจะเริ่มย้ายผู้ใช้ไปยัง Skype for Business Online คุณควรสำรองข้อมูลของ.ผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีผู้ใช้ที่จะย้าย ข้อมูลผู้ใช้บางอย่างจะไม่ถูกย้ายไปกับบัญชีผู้ใช้ สำหรับข้อมูล ให้ดูที่ ความต้องการในการสำรองข้อมูลและการคืนค่าใน Lync Server 2015: ข้อมูล

โยกย้ายการตั้งค่าของผู้ใช้ไปยัง Skype for Business Online

การตั้งค่าของผู้ใช้จะถูกย้ายไปกับบัญชีผู้ใช้ การตั้งค่าภายในองค์กรบางอย่างจะไม่ถูกย้ายไปกับบัญชีผู้ใช้

การย้ายผู้ใช้นำร่องไปยัง Skype for Business Online

ก่อนที่คุณจะเริ่มย้ายผู้ใช้ไปยัง Skype for Business Online คุณอาจต้องการย้ายผู้ใช้นำร่องบางรายก่อน เพื่อยืนยันว่าสภาพแวดล้อมของคุณได้รับการกำหนดค่าอย่างถูกต้อง จากนั้น คุณสามารถตรวจสอบได้ว่าฟีเจอร์และบริการของ Skype for Business ทำงานได้ตามที่คาดไว้ก่อนที่จะย้ายผู้ใช้เพิ่มเติม

เมื่อต้องการย้ายผู้ใช้ภายในองค์กรไปยังผู้เช่า Skype for Business Online ให้เรียกใช้ cmdlets ต่อไปนี้ใน Skype for Business Server Management Shell โดยใช้ข้อมูลประจำตัวของผู้ดูแลระบบสำหรับผู้เช่า Microsoft Office 365 ของคุณ ให้แทนที่ "username@contoso.com" ด้วยข้อมูลสำหรับผู้ใช้ที่คุณต้องการย้าย

$creds=Get-Credential
Move-CsUser -Identity username@contoso.com -Target sipfed.online.partner.lync.cn -Credential $creds -HostedMigrationOverrideUrl <URL>

รูปแบบของ URL ที่ระบุสำหรับพารามิเตอร์ HostedMigrationOverrideUrl ต้องเป็น URL ไปยังพูลที่ บริการการโยกย้ายที่โฮสต์ ใช้งานอยู่ ในรูปแบบต่อไปนี้ Https://<Pool FQDN>/HostedMigration/hostedmigrationService.svc

คุณสามารถระบุ URL ไปยัง บริการการโยกย้ายที่โฮสต์ ได้โดยการดู URL สำหรับแผงควบคุม Skype for Business Online สำหรับบัญชีผู้ใช้ผู้เช่า Office 365 ของคุณ

เมื่อต้องการระบุ URL ของบริการการโยกย้ายที่โฮสต์สำหรับผู้เช่า Office 365
  1. ให้ลงชื่อเข้าใช้ผู้เช่า Office 365 ของคุณในฐานะผู้ดูแลระบบ

  2. เปิด ศูนย์การจัดการของ Skype for Business

  3. ใน ศูนย์การจัดการของ Skype for Business ที่แสดงขึ้น ให้เลือกและคัดลอก URL ในแถบที่อยู่จนถึง partner.lync.cn ตัวอย่างของ URL จะมีลักษณะดังนี้

    https://webdir0a.online.partner.lync.cn/lscp/?language=zh-cn&tenantID=
  4. แทนที่ webdir ใน URL ด้วย admin ซึ่งจะได้ดังนี้

    https://admin0a.online.partner.lync.cn
  5. เพิ่มสตริงต่อไปนี้ใน URL /HostedMigration/hostedmigrationservice.svc URL ที่ได้ ซึ่งก็คือค่าของ HostedMigrationOverrideUrl ควรมีลักษณะดังนี้

    https://admin0a.online.partner.lync.cn/HostedMigration/hostedmigrationservice.svc

การย้ายผู้ใช้ไปยัง Lync Online

คุณสามารถย้ายผู้ใช้หลายรายได้โดยการใช้ Get-CsUser cmdlet กับพารามิเตอร์ –Filter เพื่อเลือกผู้ใช้ที่มีคุณสมบัติเฉพาะเจาะจงซึ่งกำหนดให้กับบัญชีผู้ใช้ เช่น RegistrarPool คุณสามารถส่งผู้ใช้ที่ถูกส่งกลับไปยัง Move-CsUser cmdlet ได้ตามที่แสดงในตัวอย่างต่อไปนี้

Get-CsUser -Filter {UserProperty -eq "UserPropertyValue"} | Move-CsUser -Target sipfed.online.partner.lync.cn -Credential $creds -HostedMigrationOverrideUrl <URL>

คุณยังสามารถใช้พารามิเตอร์ –OU เพื่อเรียกใช้ผู้ใช้ทั้งหมดใน OU ที่ระบุ ตามที่แสดงในตัวอย่างต่อไปนี้

Get-CsUser -OU "cn=hybridusers,cn=contoso.." | Move-CsUser -Target sipfed.online.partner.lync.cn -Credentials $creds -HostedMigrationOverrideUrl <URL>

ตรวจสอบการตั้งค่าและฟีเจอร์ของผู้ใช้ Skype for Business Online

คุณสามารถตรวจสอบได้ว่าการย้ายผู้ใช้สำเร็จหรือไม่ ด้วยวิธีการดังนี้

  • ดูสถานะของผู้ใช้ในแผงควบคุม Skype for Business Online ตัวบ่งชี้แบบเป็นภาพสำหรับผู้ใช้ภายในองค์กรและผู้ใช้ออนไลน์จะแตกต่างกัน

  • เรียกใช้ cmdlet ต่อไปนี้:

    Get-CsUser -Identity

การดูแลผู้ใช้ในการปรับใช้ Skype for Business Server 2015 แบบไฮบริด

คุณสามารถจัดการการตั้งค่าและนโยบายของผู้ใช้สำหรับผู้ใช้ที่ย้ายไปยัง Skype for Business Online ได้โดยการใช้ฟีเจอร์ การจัดการผู้ใช้ ที่มีให้ใช้งานในพอร์ทัลออนไลน์ Microsoft Office 365 คุณต้องลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีผู้ใช้สำหรับผู้ดูแลระบบผู้เช่าของคุณเพื่อดำเนินงานด้านการดูแล

การย้ายผู้ใช้กลับไปยังภายในองค์กร

ส่วนนี้นำไปใช้กับผู้ใช้ที่ถูกสร้างและเปิดใช้งานสำหรับ Skype for Business ภายในองค์กร และถูกย้ายจากการปรับใช้ภายในองค์กรไปยัง Skype for Business Online เท่านั้น ถ้าคุณต้องการย้ายผู้ใช้ที่ถูกสร้างใน Skype for Business Online (และไม่เคยเปิดใช้งาน Skype for Business ในการปรับใช้ภายในองค์กร) ให้ดูที่ การย้ายผู้ใช้จาก Skype for Business Online ไปยัง Skype for Business ภายในองค์กรใน Skype for Business Server 2015

เรียกใช้ cmdlets ต่อไปนี้เพื่อย้ายผู้ใช้จาก Skype for Business Online กลับไปยัง Skype for Business ภายในองค์กร:

$cred=Get-Credential
Move-CsUser -Identity username@contoso.com -Target localpool.contoso.com -Credential $cred -HostedMigrationOverrideUrl <URL>

เมื่อต้องการระบุ URL สำหรับบริการ การโยกย้ายที่โฮสต์ ให้ดูที่ "เมื่อต้องการระบุ URL ของบริการการโยกย้ายที่โฮสต์สำหรับผู้เช่า Office 365" ในส่วนก่อนหน้านี้

การโยกย้ายผู้ใช้ Skype for Business Online ไปยัง Skype for Business ภายในองค์กรใน Skype for Business Server 2015

ขั้นตอนเหล่านี้จำเป็นสำหรับการโยกย้ายบัญชีผู้ใช้ที่ถูกเปิดใช้งานสำหรับ Skype for Business ใน Skype for Business Online ตั้งแต่แรก ก่อนที่คุณจะปรับใช้ Skype for Business ภายในองค์กรเท่านั้น เมื่อต้องการย้ายผู้ใช้ที่ถูกเปิดใช้งานสำหรับ Skype for Business ภายในองค์กรตั้งแต่แรก และถูกย้ายไปยัง Skype for Business Online ในภายหลัง ให้ดูที่ "การดูแลผู้ใช้ในการปรับใช้Skype for Business Server 2015 แบบไฮบริด" ในหัวข้อนี้ นอกจากนี้ ผู้ใช้ทั้งหมดที่ถูกย้ายต้องมีบัญชีผู้ใช้ใน Active Directory ภายในองค์กร

การโยกย้ายบัญชีผู้ใช้ที่ถูกเปิดใช้งานใน Skype for Business Online ตั้งแต่แรกไปยัง Skype for Business ภายในองค์กร
  1. ขั้นแรก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าองค์กรของคุณได้รับการกำหนดค่าสำหรับไฮบริด

    • ติดตั้งเครื่องมือซิงค์ Active Directory ของ Windows Azure

    • เมื่อต้องการเปิดใช้งานให้ผู้ใช้ของคุณใช้การเข้าสู่ระบบโดยลงชื่อเข้าใช้ครั้งเดียวสำหรับ Skype for Business Online ให้ติดตั้ง Active Directory Federation Services

    • ในการปรับใช้ภายในองค์กรของคุณ ใน Skype for Business Server Management Shell ให้พิมพ์ cmdlets ต่อไปนี้เพื่อสร้างผู้ให้บริการโฮสต์สำหรับ Skype for Business Online:

      Set-CSAccessEdgeConfiguration -AllowOutsideUsers 1 -AllowFederatedUsers 1 -UseDnsSrvRouting -EnablePartnerDiscovery $true
      New-CSHostingProvider -Identity LyncOnline -Name LyncOnlin -ProxyFqdn "sipfed.online.partner.lync.cn" -Enabled $true -EnabledSharedAddressSpace $true -HostsOCSUsers $true -VerificationLevel UseSourceVerification -IsLocal $false -AutodiscoverUrl https://webdir.online.partner.lync.cn/Autodiscover/AutodiscoverService.svc/root
  2. ยืนยันว่าบน Edge Servers ภายในองค์กรของคุณ คุณมีสายของใบรับรองที่เปิดใช้งานการเชื่อมต่อกับ Skype for Business Online สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่ เปลี่ยนใบรับรอง Lync Online Service SSL สำหรับการเชื่อมต่อไคลเอ็นต์

  3. ใน Active Directory ภายในองค์กร ให้เปิดใช้งานบัญชีผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบสำหรับ Skype for Business ภายในองค์กร คุณสามารถทำเช่นนี้กับผู้ใช้แต่ละรายได้โดยการพิมพ์ cmdlet ต่อไปนี้:

    Enable-CsUser -Identity "username" -SipAddress "sip: username@contoso.com" -HostingProviderProxyFqdn "sipfed.online.partner.lync.cn"

    หรือคุณสามารถสร้างสคริปต์ที่อ่านชื่อผู้ใช้จากไฟล์ และเตรียมชื่อเป็นข้อมูลเพื่อป้อนใน Enable-CsUser cmdlet ดังนี้

    Enable-CsUser -Identity $Identity -SipAddress $SipAddress -HostingProviderProxyFqdn "sipfed.online.partner.lync.cn"
  4. เรียกใช้ DirSync เพื่อซิงค์ผู้ใช้ Skype for Business Online กับผู้ใช้ Skype for Business ภายในองค์กรที่อัปเดต

  5. อัปเดตระเบียน DNS บางระเบียนเพื่อจัดการการรับส่งข้อมูลของ SIP ทั้งหมดไปยัง Skype for Business ภายในองค์กรดังนี้

    • อัปเดตระเบียน lyncdiscover.contoso.com ให้ชี้ไปยัง FQDN ของพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ย้อนกลับภายในองค์กร

    • อัปเดตระเบียน SRV _sip._tls.contoso.com เพื่อแก้ไข IP สาธารณะหรือที่อยู่ VIP ของ Access Edge Service ของ Skype for Business ภายในองค์กร

    • อัปเดตระเบียน SRV _sipfederationtls._tcp.contoso.com เพื่อแก้ไข IP สาธารณะหรือที่อยู่ VIP ของ Access Edge Service ของ Skype for Business ภายในองค์กร

    • ถ้าองค์กรของคุณใช้ DNS แบบแยก (ในบางครั้งเรียกว่า “ปัญหาการทำงานของ DNS พร้อมกัน (split-brain DNS) ”) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าชื่อที่แก้ไขของผู้ใช้ผ่านโซน DNS ภายในถูกนำทางไปยังพูล Front End

  6. เรียกใช้ Get-CsUser cmdlet เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติบางอย่างเกี่ยวกับผู้ใช้ที่คุณกำลังจะย้าย คุณต้องดูให้แน่ใจว่า HostingProviderProxyFQDN ถูกตั้งค่าเป็น "sipfed.online.partner.lync.cn" และที่อยู่ SIP ถูกตั้งค่าอย่างถูกต้อง

  7. ย้ายผู้ใช้ Skype for Business Online ไปยัง Skype for Business ภายในองค์กร

    เมื่อต้องการย้ายผู้ใช้รายเดียว ให้เรียกใช้ cmdlets ต่อไปนี้

    $cred = Get-Credential
    Move-CsUser -Identity <username>@contoso.com -Target "<fe-pool>.contoso.com" -Credential $cred -HostedMigrationOverrideURL <URL>

    คุณสามารถย้ายผู้ใช้หลายรายได้โดยการใช้ Get-CsUSer cmdlet กับพารามิเตอร์ –Filter เพื่อเลือกผู้ใช้ที่มีคุณสมบัติที่เจาะจง ตัวอย่างเช่น คุณอาจเลือกผู้ใช้ Skype for Business Online ทั้งหมดด้วยการกรอง {Hosting Provider –eq “sipfed.online.partner.lync.cn”} คุณสามารถส่งผู้ใช้ที่ถูกส่งกลับไปยัง Move-CsUSer cmdlet ได้ตามที่แสดงในตัวอย่างต่อไปนี้

    Get-CsUser -Filter {Hosting Provider -eq "sipfed.online.partner.lync.cn"} | Move-CsUser -Target "<fe-pool>.contoso.com" -Credential $creds -HostedMigrationOverrideURL <URL>

    รูปแบบของ URL ที่ระบุสำหรับพารามิเตอร์ HostedMigrationOverrideUrl ต้องเป็น URL ไปยังพูลที่ บริการการโยกย้ายที่โฮสต์ ใช้งานอยู่ ในรูปแบบต่อไปนี้: Https://<Pool FQDN>/HostedMigration/hostedmigrationService.svc คุณสามารถระบุ URL ไปยัง บริการการโยกย้ายที่โฮสต์ ได้โดยการดู URL สำหรับแผงควบคุม Skype for Business Online สำหรับบัญชีผู้ใช้ผู้เช่า Office 365 ของคุณ

    หมายเหตุ: ขนาดสูงสุดเริ่มต้นสำหรับไฟล์บันทึกทรานแซคชันของฐานข้อมูล rtcxds คือ 16 GB ซึ่งอาจจะใหญ่ไม่เพียงพอถ้าคุณกำลังย้ายผู้ใช้จำนวนมากในคราวเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณเปิดใช้งานการทำมิเรอร์ เมื่อต้องการแก้ไขปัญหานี้ คุณสามารถเพิ่มขนาดไฟล์หรือสำรองไฟล์บันทึกเป็นประจำ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่ http://support.microsoft.com/kb/2756725

  8. นี่เป็นขั้นตอนที่จะทำหรือไม่ก็ได้ ถ้าคุณต้องการรวมกับ Exchange 2013 Online คุณจำเป็นต้องใช้ผู้ให้บริการโฮสต์เพิ่มเติม สำหรับรายละเอียด ให้ดูที่ การกำหนดค่าการรวม Lync Server 2013 ภายในองค์กรกับ Exchange Online

  9. ในตอนนี้ผู้ใช้ได้ถูกย้ายแล้ว เมื่อต้องการตรวจสอบว่าผู้ใช้มีค่าที่ถูกต้องสำหรับแอตทริบิวต์ที่แสดงในตารางต่อไปนี้ ให้พิมพ์ cmdlet นี้

    Get-CsUser | fl DisplayName,HostingProvider,SipAddress,Enabled

    แอตทริบิวต์ AD

    ชื่อแอตทริบิวต์

    ค่าสำหรับผู้ใช้ Skype for Business Online

    ค่าสำหรับผู้ใช้ Skype for Business ภายในองค์กร

    msRTCSIP-DeploymentLocator

    HostingProvider

    sipfed.online.partner.lync.cn

    SRV:

    msRTCSIP-PrimaryUserAddress

    SIPAddress

    sip:userName@contoso.com

    sip:userName@contoso.com

    sRTCSIP-UserEnabled

    Enabled

    True

    True

  10. ผู้ใช้แต่ละรายที่ถูกย้ายไปแล้ว จะต้องลงชื่อออกจาก Skype for Business แล้วลงชื่อเข้าใช้อีกครั้ง เมื่อพวกเขาลงชื่อเข้าใช้ พวกเขาควรตรวจสอบรายชื่อที่ติดต่อ และเพิ่มที่ติดต่อถ้าต้องการ โปรดทราบว่า การประชุมที่จัดกำหนดการจะไม่ถูกโยกย้ายจาก Skype for Business Online ไปยัง Skype for Business ภายในองค์กร ผู้ใช้จะต้องจัดกำหนดการประชุมเหล่านี้ใหม่หลังจากที่ถูกย้ายแล้ว

    หลังจากที่ระเบียน DNS ถูกอัปเดต และผู้ใช้ทั้งหมดถูกนำทางไปยังภายในองค์กร แอตทริบิวต์ HostingProvider จะนำทางผู้ใช้ Skype for Business ไปใช้ระเบียน SRV หรือนำทางไปยังผู้ให้บริการออนไลน์ “sipfed.online.partner.lync.cn”

ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมหรือไม่

ต้องการตัวเลือกเพิ่มเติมหรือไม่

สํารวจสิทธิประโยชน์ของการสมัครใช้งาน เรียกดูหลักสูตรการฝึกอบรม เรียนรู้วิธีการรักษาความปลอดภัยอุปกรณ์ของคุณ และอื่นๆ

ชุมชนช่วยให้คุณถามและตอบคําถาม ให้คําติชม และรับฟังจากผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้มากมาย

ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

คุณพึงพอใจกับคุณภาพภาษาเพียงใด
สิ่งที่ส่งผลต่อประสบการณ์ใช้งานของคุณ
เมื่อกดส่ง คำติชมของคุณจะถูกใช้เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการของ Microsoft ผู้ดูแลระบบ IT ของคุณจะสามารถรวบรวมข้อมูลนี้ได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ขอบคุณสำหรับคำติชมของคุณ!

×