บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับไวยากรณ์ของสูตรและการใช้ฟังก์ชัน DAY ใน Microsoft Excel สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟังก์ชัน DAYS ให้ดูที่ ฟังก์ชัน DAYS
คำอธิบาย
ส่งกลับวันของวันที่ ซึ่งแสดงด้วยเลขลำดับ ค่าที่ได้จะเป็นจำนวนเต็มตั้งแต่ 1 ถึง 31
ไวยากรณ์
DAY(serial_number)
ไวยากรณ์ของฟังก์ชัน DAY มีอาร์กิวเมนต์ ดังนี้
-
ต้องระบุ Serial_number วันที่ของวันที่คุณกำลังค้นหา คุณอาจใส่วันที่โดยใช้ฟังก์ชัน DATE หรือใช้ผลลัพธ์จากสูตรหรือฟังก์ชันอื่น ตัวอย่างเช่น ใช้สูตร DATE(2008,5,23) แทนวันที่ 23 พฤษภาคม 2008 เนื่องจากอาจเกิดปัญหาถ้าใส่วันที่ในรูปแบบข้อความ
ข้อสังเกต
Microsoft Excel เก็บข้อมูลวันที่เป็นเลขลำดับ (serial number) เพื่อให้สามารถใช้ในการคำนวณได้ ตามค่าเริ่มต้นแล้ว 1 มกราคม 2443 (คริสต์ศักราช 1900) มีเลขลำดับเป็น 1 และวันที่ 1 มกราคม 2551 (คริสต์ศักราช 2008) มีเลขลำดับเป็น 39448 เนื่องจากเป็นวันในลำดับที่ 39,448 นับจากวันที่ 1 มกราคม 2443 (คริสต์ศักราช 1900)
ค่าที่ส่งกลับโดยฟังก์ชัน YEAR, MONTH และ DAY จะเป็นค่าตามปฏิทินคริสต์ศักราช ไม่ว่าค่าวันที่ซึ่งให้ไว้จะแสดงในรูปแบบใด ตัวอย่างเช่น ถ้ารูปแบบการแสดงวันที่ที่ระบุเป็นแบบฮิจเราะห์ ค่าที่ส่งกลับสำหรับฟังก์ชัน YEAR, MONTH และ DAY จะเป็นค่าซึ่งสัมพันธ์กับวันที่ที่เทียบเท่าตามคริสต์ศักราช
ตัวอย่าง
คัดลอกข้อมูลตัวอย่างในตารางต่อไปนี้ และวางในเซลล์ A1 ของเวิร์กชีต Excel ใหม่ เพื่อให้สูตรแสดงผลลัพธ์ ให้เลือกสูตร กด F2 แล้วกด Enter ถ้าต้องการ คุณสามารถปรับความกว้างของคอลัมน์เพื่อดูข้อมูลทั้งหมด
วันที่ |
||
15-เม.ย.-11 |
||
สูตร |
คำอธิบาย (ผลลัพธ์) |
ผลลัพธ์ |
=DAY(A2) |
วันของวันที่ในเซลล์ A2 (15) |
15 |